Regulation of Blood Glucose Levels
ถ้าไม่มีเหตุผลอื่นไดแล้ว การควบคุมระดับของกลูโคสในเลือดเกิดขึ้นเนื่องจากความต้องการของสมองสำหรับ oxidizable glucose ซึ่งในร่างการของเรามีการควบคุมการไหลเวียนของของกลูโคสอย่างเข้มงวด ซึ่งระดับของกลูโคสก็อยู่ในช่วง 5mM
Carbohydrates ที่ถูกกินไปเกือบทั้งหมดจะถูกเปลี่ยนไปเป็นกลูโคสในตับ อย่างไรก็ตาม Catabolism ของอาหารหรือ Proteins ก็สามารถที่จะถูกเปลี่ยนไปอยู่ในรูปของ carbon atoms ที่สามารถจะถูกใช้ในการสังเคราะห์กลูโคสได้ด้วยกระบวนการ gluconeogenesis. นอกจากนั้นในเนื้อเยื่ออื่นๆที่ไม่สามารถจะ oxidize กลูโคสได้อย่างสมบรูณ์ (ส่วนใหญ่แล้วเป็น skeletal muscle และ erythrocytes) ก็จะให้ lactate ซึ่งก็จะสามารถถูกเปลี่ยนไปเป็นกลูโคสได้ในกระบวนการ gluconeogenesis.
การรักษาระดับของ blood glucose homeostasis มีความจำเป็นอย่างมากต่อการมีชีวิตอยู่รอดของมนุษย์ โดยตับจะทำหน้าที่ในการควบคุมระดับของ blood glucose โดยถูกควบคุมผ่านฮอร์โมน ที่จริงแล้วหน้าที่ที่สำคัญที่สุดของตับคือผลิตกลูโคสให้กับกระแสเลือด การเพิ่มขึ้นหรือลดลงของ blood glucose จะกระตุ้นฮอร์โมนที่จะทำหน้าที่กระตุ้นเซลล์ตับให้มีการรักษาระดับของกลูโคสให้คงที่ ถ้ามี blood glucose ต่ำก็จะมีการกระตุ้นให้มีการหลั่ง glucagons จาก pancreatic a-cells. ในขณะที่ blood glucose อยู่ในระดับที่สู่งก็จะมีการกระตุ้นให้มีการหลั่งของ insulin ของ pancreatic b-cells นอกจากนั้นฮอร์โมน ACTH และ growth hormone ที่มาจากต่อม pituitary ก็จะทำหน้าที่ในการกระตุ้นให้มีการสร้างกลูโคสด้วยโดยการลดการนำกลูโคสเข้าสู่เซลล์ของextrahepatic tissues ฮอร์โมน Glucocorticoids ยังทำหน้าที่กระตุ้นการเพิ่มขึ้นของblood glucose โดยยับยั้งการ glucose uptake ของเซลล์ ซึ่ง Glucocorticoids ที่พบมากที่สุดคือ Cortisol จะหลั่งจากต่อมหมวกไตชั้น cortex ด้วยการกระตุ้นโดย ACTH. นอกจากนั้น epinephrine ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ผลิตโดย adrenal medullar ก็สามารถกระตุ้นการสร้างกลูโคสโดยกระตุ้น glycogenolysis ในการตอบสนองต่อ stressful stimuli
.
การจับของ Glucagon ต่อ receptors ของมันที่อยู่บนผิวของ liver cells จะมีการกระตุ้นการเพิ่มขึ้นของ cAMP ซึ่งก็จะกระตุ้นอัตรา glycogenolysis โดยการกระตุ้น glycogen phosphorylase โดยผ่าน PKA-mediated signaling ซึ่งการตอบสนองนี้ก็เกิดขึ้นในลักษณะเดียวกันกับการกระตุ้นด้วย epinephrine ใน hepatocytes ซึ่งผลจากการกระตุ้นก็คือการเพิ่มขึ้นของ G6P ใน hepatocytes และถูก hydrolyzed ด้วยเอนไซม์ glucose-6-phosphatase ไปเป็นกลูโคสอิสระแล้วแพร่ไปสู่กระแสเลือด กลูโคสที่อยู่ในกระแสเลือดจะเข้าสู่เซลล์ (extrahepatic cells) เป้าหมายแล้วก็จะถูก phosphorylated ด้วยเอนไซม์ hexokinase. เนื่องจากว่าทั้ง muscle และ brain cells ไม่มี glucose-6-phosphatase,ผลิตภัณฑ์ของ hexokinase ซึ่งเป็น glucose-6-phosphate จะถูกกักใว้ในเซลล์และจะถูก oxidized ต่อไป
การตอบสนองของอินซูลินจะตรงกันข้ามกับ glucagon (และ epinephrine ใน hepatocytes), insulin จะกระตุ้นการนำกลูโคสเข้าสู่เซลล์ของ extrahepatic cells จากกระแสเลือดและก็จะยับยั้งการเกิด glycogenolysis ใน extrahepatic cells แต่จะกระตุ้นเซลล์ให้มีการสร้าง glycogen แทน ขณะที่กลูโคสผ่านเข้าสู่ hepatocytes ก็จะมีการยับยั้ง glycogen phosphorylase activity. การจับของ free glucose จะกระตุ้น de-phosphorylation ของ phosphorylase ดังนั้นทำให้มีการยับยั้งการทำงานของเอนไซม์นี้. คำถามมีอยู่ว่าทำไม glucose ที่ผ่านเข้าไปในเซลล์ hepatocytes ไม่ถูก phosphorylated และถูก oxidized ? อย่างไรก็ตามเป็นที่ทราบว่า Liver cells จะมี isoform ของ hexokinase ที่เรียกว่า glucokinase. ซึ่ง Glucokinase จะมี affinity สำหรับ glucose ที่ต่ำกว่า hexokinase มาก. ดังนั้นมันจึงไม่ถูกกระตุ้น ณ ความเข้มข้นที่เป็น physiological ranges ของ blood glucose. นอกจากนั้น glucokinase ไม่ถูกยับยั้งโดยผลิตภัณฑ์ของมันเองนั่นคือ G6P แต่ในขณะที่ hexokinase สามารถที่จะถูกยับยั้งได้ด้วย G6P
.
การตอบสนองที่สำคัญของ non-hepatic tissues ต่อ insulin ก็คือมีการทำงานของ glucose transporter complexes ที่อยู่ที่ผิวเซลล์ . Glucose transporters ประกอบด้วยโปรตีน 5 ชนิดได้แก่ GLUT-1 ถึง GLUT-5. GLUT-1 จะพบได้ในเนื้อเยื่อทั่วๆไป ส่วน GLUT-2 จะพบส่วนใหญ่ใน intestine, kidney และ liver.ในขณะที่ GLUT-3 ก็พบได้ที่ intestine ส่วน GLUT-5 นั้นพบใน brain และ testis. เนื้อเยื่อที่ไวต่อ insulin (Insulin-sensitive tissues) เช่น skeletal muscle และ adipose tissue จะประกอบด้วย GLUT-4 เมื่อความเข้าข้นของ blood glucose เพิ่มขึ้นเนื่องจากการได้รับจากอาหารก็จะพบว่า GLUT-2 molecules จะทำหน้าที่ mediate การเพิ่มขึ้นของ glucose uptake ซึ่งจะเป็นผลให้มีการเพิ่มการหลั่งของ insulin
Hepatocytes จะมีลักษณะที่แตกต่างจากเซลล์อื่น นั่นคือจะ freely permeable ต่อ glucose และดังนั้นจะไม่มีผลกระทบไดๆเนื่องจากการทำงานของ insulin ที่ระดับของ เมื่อ blood glucose levels ต่ำมาก liver ก็จะไม่แข่งขันกับเนื้อเยื่ออื่นๆในการจับกับกลูโคสเนื่องจากว่า extrahepatic uptake ของ glucose จะถูกกระตุ้นในกรณีมีการตอบสนองต่อ insulin. ในทางตรงกันข้ามเมื่อ blood glucose levels สูงก็จะพบว่า extrahepatic cells ได้รับกลูโคสอย่างเพียงพอและ liver ก็จะนำกลูโคสเข้าสู่เซลล์และเปลี่ยนให้ไปอยู่ในรูปของ glycogen สำหรับใว้ใช้ในอนาคต ภายใต้สภาวะที่มีกลูโคสในกระแสเลือดอยู่มาก liver glucose levels ก็จะสูงด้วยซึ่งก็จะกระตุ้น glucokinase ให้มีการสังเคราะห์และทำงาน G6P ที่ถูกผลิตโดย glucokinase จะถูกเปลี่ยนไปเป็น G1P อย่างรวดเร็วด้วยเอนไซม์ phosphoglucomutase, ซึ่ง G1P ก็จะเป็น intermediate ที่จะถูกใช้ในการสังเคราะห์ไกลโคเจน